ผักแคลเซียมสูง ทางเลือกเสริมกระดูกแข็งแรง

ผักที่มีแคลเซียมสูง

นอกจากผักที่มีแคลเซียมเหล่านี้แล้ว เรายังได้ประโยชน์จากผัก ชนิดนี้อีกไม่น้อย กินผักวันละนิดละหน่อย ร่างกายแข็งแรง

ผักแคลเซียมสูง
ผักที่มีแคลเซียมจะมีผักอะไรที่หากินได้ง่าย ๆ บ้าง ลองมาเช็กลิสต์ผักแคลเซียมสูงที่นำมาฝากกันดีกว่า เสริมกระดูกให้แข็งแรงได้อีกทาง ก็กินผักแคลเซียมสูงเหล่านี้เพิ่มเข้าไปได้เลยค่ะ
1. ชะพลู  

          ใบชะพลูปริมาณ 100 กรัม มีแคลเซียมสูงถึง 601 มิลลิกรัม เชียวนะคะ ซึ่งนอกจากใบชะพลูจะมีแคลเซียมสูงแล้ว ใบชะพลูยังจัดเป็นผักกึ่ง ๆ สมุนไพรที่มีน้ำมันหอมระเหยชนิดพิเศษในตัวเอง ช่วยลดการปวดบวมของกล้ามเนื้อ ช่วยดับกลิ่นปาก แก้คัดจมูก แถมยังมีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียและเชื้อราได้หลายชนิดอีกด้วย

2. สะเดา

          สะเดาเป็นผักที่มากคุณประโยชน์ โดยใบอ่อนมีสรรพคุณแก้โรคผิวหนัง ปรับสมดุลน้ำเหลือง รักษาแผลพุพอง ดอกแก้พิษโลหิต บรรเทาอาการเลือดกำเดาไหล แก้ริดสีดวง บรรเทาอาการคันคอ และช่วยบำรุงธาตุไฟ และใน 100 กรัม สะเดาก็เปี่ยมไปด้วยแคลเซียมถึง 354 มิลลิกรัม ถ้าถึงฤดูสะเดาออกยอดก็ต้องจัดเมนูสะเดากันหน่อยแล้ว

3. ยอ  

          ใบยอ 100 กรัม ให้แคลเซียมสูงถึง 469 มิลลิกรัม ยิ่งถ้าเป็นใบยอเล็ก จากจังหวัดปัตตานีจะให้แคลเซียมสูงถึง 841 มิลลิกรัม เรียกว่าแคลเซียมดับเบิลชอตเลยล่ะค่ะ ส่วนประโยชน์อื่น ๆ ของใบยอก็ยังช่วยบำรุงสายตา เพราะใบยอมีวิตามินเออยู่มาก หรือใครจะนำใบยอมาคั้นเป็นยาสระผมก็ช่วยกำจัดเหาได้ด้วยนะ

4. ผักแพว

          ผักแพวปริมาณ 100 กรัม มีแคลเซียม 573 มิลลิกรัม และนอกจากผักแพวจะมีแคลเซียมสูงแล้ว ยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก มีคุณสมบัติในการสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง และช่วยนำออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายด้วยล่ะ

5. แค

          ยอดแคปริมาณ 100 กรัม ให้แคลเซียม 395 มิลลิกรัม จัดเป็นผักแคลเซียมสูงที่หากินไม่ยาก นำมาต้มจิ้มน้ำพริก ใส่แกงส้ม หรือผัดใส่หมูสับกับกุ้งก็อร่อย

6. ตำลึง

          ใบและยอดอ่อนตำลึงมีแคลเซียม 126 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม แต่ทีเด็ดของผักริมรั้วชนิดนี้ยังไม่จบค่ะ เพราะตำลึงเป็นแหล่งวิตามินเอที่สำคัญ ช่วยบำรุงสายตา เสริมภูมิต้านทาน รักษาเบาหวาน บำรุงกระดูก แก้อาการอักเสบจากเมลงสัตว์กัดต่อย และช่วยย่อยอาหาร

7. ขี้เหล็ก

          ส่วนยอดและใบอ่อนของขี้เหล็กมีแคลเซียมสูงถึง 156 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม แถมยังพกวิตามินซีมาเยอะ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และในใบอ่อนของขี้เหล็กยังมีสารช่วยคลายเครียด อีกทั้งยังเป็นยานอนหลับอ่อน ๆ ด้วยนะคะ

8. กระถิน

          ยอดอ่อนของกระถินให้แคลเซียม 137 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม แม้จะเป็นผักริมรั้วก็มองผ่านไม่ได้เลยจริง ๆ เพราะกระถินเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด บำรุงตับ ขับระดู ขับลม แก้ท้องร่วง และสมานแผล

9. โสน

          ดอกโสน 100 กรัม ให้แคลเซียม 51 มิลลิกรัม อีกทั้งในตำรับยาพื้นบ้านดอกโสนยังเป็นยาแก้ปวดมวนท้อง และนำมาทำอาหารได้หลายเมนู ทั้งดอกโสนชุบแป้งทอดกรอบ ดอกโสนผัดน้ำมันหอย แกงดอกโสน หรือยำดอกโสน

10. ถั่วพู

          ถั่วพูนำมาทำอาหารได้หลายเมนู ไม่ว่าจะยำถั่วพู ถั่วพูจิ้มน้ำพริก หรือนำมาใส่ผัดกะเพราเป็นกิมมิกเพิ่มความกรุบกรอบก็อร่อยเด็ด นอกจากนี้ในถั่วพูยังมีวิตามินเอ ซี อี ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย และช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้ด้วย


11. กระเฉด

          ผักกระเฉด 100 กรัม ให้แคลเซียม 387 มิลลิกรัม ดังนั้นใครอยากจะนำผักกระเฉดไปผัดไฟแดง กินคู่กับแกงส้ม หรือยำผักกระเฉดก็จัดให้ครบทุกเมนูไปเลย
12. คะน้า  

          คะน้าเป็นผักยอดฮิตที่เจอในหลายเมนูมาก ๆ ในบ้านเรา ตั้งแต่ข้าวผัด ผัดซีอิ๊ว ราดหน้า ยำ หรือบางทีเจอในชามก๋วยเตี๋ยวก็ยังมี และคะน้า 100 กรัม ก็ให้แคลเซียมมากถึง 245 มิลลิกรัม น้อยซะเมื่อไร

นอกจากนี้คะน้ายังเป็นผักเพื่อสุขภาพที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลายประการด้วยนะคะ

แคลเซียมเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในกระบวนการสร้างเสริมกระดูกและฟัน รวมทั้งยังมีส่วนช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจ ระบบประสาท และกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังเป็นธาตุที่จำเป็นต่อการแข็งตัวของเลือด ดังนั้นใครอยากบำรุงดูแลร่างกายด้วยการเสริมแคลเซียม อย่าลืมนึกถึงผักชนิดนี้ด้วยนะคะ ซึ่งนอกจากผักแคลเซียมสูงแล้ว เรายังมีอาหารอุดมแคลเซียมมาให้เช็กลิสต์กันด้วย

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : สุขภาพ – Kapook

Facebook
Twitter
LinkedIn
Telegram
Pinterest
5/5