เคล็ดลับความงาม วิธีรักษาสิวให้ผิวกลับมาสวยได้ด้วยตนเอง

รักษาสิว

วิธีรักษาสิวให้ผิวกลับมาสวยได้ด้วยตนเอง

เคล็ดลับความงาม วิธีรักษาสิวให้ผิวกลับมาสวยได้ด้วยตนเอง สิวเป็นปัญหาผิวที่สำคัญสำหรับบางคน โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น หลายคนจึงพยายามมองหาวิธีรักษาสิวที่ได้ผล และแม้สิวอาจค่อย ๆ หายไปได้เองในบางรายโดยไม่ต้องรับการรักษา และอาการของสิวก็อาจไม่รุนแรงหรือเป็นอันตรายมากนัก แต่ปัญหานี้ก็อาจสร้างความหงุดหงิดและทำให้เกิดรอยแผลเป็นตามผิวหนังได้ อย่างไรก็ตาม การรักษาสิวชนิดที่ไม่รุนแรงมากนั้นเป็นเรื่องที่อาจทำได้ด้วยตัวเอง แต่หากอาการไม่ทุเลาลงก็ควรไปพบแพทย์ เพื่อปรึกษาและหาวิธีที่จะทำให้ผิวสุขภาพดีกลับคืนมาดังเดิม

ปัญหาสิวเกิดจากอะไร ?

สิวเป็นการอักเสบของผิวหนังที่มักเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า หลัง หัวไหล่ และหน้าอก ซึ่งเกิดได้จากหลาย ๆ สาเหตุ อย่างผิวหนังมีการผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป เกิดการอุดตันจากน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วบริเวณรูขุมขน การติดเชื้อแบคทีเรีย และฮอร์โมนเอนโดรเจนทำงานมากผิดปกติ โดยสิวจะมีลักษณะและอาการที่ปรากฏแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภท

วิธีรักษาสิวด้วยตัวเอง

การรักษาสิวด้วยตนเองทำได้โดยหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงหรือควบคุมอาการของสิวตั้งแต่ระดับปานกลางลงมา ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง ร่วมกับปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

ทำความสะอาดผิวหนัง และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ระคายเคือง

โดยทั่วไป ควรล้างหน้าให้สะอาดวันละ 2 ครั้งด้วยสบู่อ่อน ๆ และน้ำอุ่น หากมีสิวเกิดขึ้นตามไรผม ก็ควรสระผมทุกวัน และควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์ขัดผิวหน้า ยาสมานแผล ผลิตภัณฑ์พอกหน้า เครื่องสำอางหรือครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม คอนซีลเลอร์ เป็นต้น เพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้สิวมีอาการแย่ลงได้ นอกจากนี้ การล้างหน้าบ่อยครั้งหรือสครับผิวแรงเกินไปก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้เช่นกัน โดยผู้ที่มีสิวอาจเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดรูขุมขนอุดตันแทน ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวได้

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์

ผู้ที่เป็นสิวอาจต้องมองหาผลิตภัณฑ์เจล ครีม และโลชั่นที่มีส่วนผสมของเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ กรดซาลิซิลิก กรดไกลโคลิค กรดอัลฟ่าไฮดรอกซี ซัลเฟอร์ และรีซอร์ซินอล มาใช้รักษาอาการสิวที่มีความรุนแรงในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งช่วยลดความมันส่วนเกินและผลัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว โดยอาจใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ สิวจึงจะมีอาการดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ อย่างอาการผิวแดง ผิวแห้งกร้านและตกสะเก็ด แต่อาการมักดีขึ้นหลังผ่านเดือนแรกไปแล้ว

ปกป้องผิวจากแสงแดด

แสงแดดอาจทำให้สิวมีอาการแย่ลงในบางราย อีกทั้งยารักษาสิวบางชนิดก็อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสงแดดได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการออกแดดหรือหันมาใช้ครีมบำรุงที่ผสมสารกันแดดที่ไม่ก่อให้เกิดรูขุมขนอุดตัน รวมถึงผู้ที่มีแนวโน้มป็นสิวได้ง่ายก็ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมทางเคมีชนิดมีฤทธิ์อ่อน ๆ เช่น อะโวเบนโซน ออกซีเบนโซน เมไทโอซีซินนาเมท ออกโตซีลีน ซิงก์ออกไซด์ เป็นต้น

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

การรับประทานอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low-Glycemic Food) เพราะอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสิวได้ อย่างอาหารจำพวกธัญพืช ถั่ว ผักและผลไม้ นอกจากนี้ อาหารที่มีวิตามินเอ วิตามินอี สังกะสี หรือสารต้านอนุมูลอิสระ อาจช่วยลดการอักเสบของผิวหนังได้อีกด้วย เช่น อาหารจำพวกผักและผลไม้สีเหลืองหรือสีส้มอย่างแครอท มันฝรั่งหวาน ผักโขมและผักใบเขียวอื่น ๆ มะเขือเทศ ขนมปังธัญพืช ข้าวกล้อง เมล็ดฟักทอง ถั่ว ปลาแซลมอน ปลาทูและปลาที่มีไขมันชนิดอื่น ๆ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าอาหารประเภทใดเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด เนื่องจากร่างกายของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน อาหารบางประเภทจึงอาจกระตุ้นให้สิวเกิดการอักเสบหรืออาการแพ้มากขึ้นในบางรายได้

ผ่อนคลายจากความเครียด

การศึกษาหลายชิ้นชี้ว่า ความเครียดส่งผลให้สิวมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นได้ โดยฮอร์โมนที่หลั่งออกมาในขณะที่มีความเครียดอาจไปเพิ่มการผลิตไขมันและการอักเสบของผิวหนัง ทำให้สิวมีอาการแย่ลงได้ นอกจากนี้ ความเครียดยังอาจไปลดกระบวนการซ่อมแซมแผลที่เกิดจากสิวได้ โดยอาจทำให้แผลหายช้าลงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้ที่เป็นสิวอาจผ่อนคลายและบรรเทาความเครียดได้ด้วยการนอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกาย เล่นโยคะ ทำสมาธิ และฝึกหายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อช่วยให้สิวมีอาการดีขึ้น

ออกกำลังกายเป็นประจำ

นอกจากการออกกำลังกายจะช่วยลดความเครียดอันเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวแล้ว ยังทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้นได้ด้วย ซึ่งจะไปช่วยบำรุงเซลล์ผิวหนัง ช่วยป้องกันและรักษาสิวได้ สำหรับคนในวัยผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีอาจออกกำลังกายเป็นเวลา 30 นาที 3-5 ครั้ง/สัปดาห์ ด้วยกิจกรรม เช่น เดิน วิ่ง หรือว่ายน้ำ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หลังการออกกำลังกายทุกครั้ง ควรอาบน้ำโดยเร็วหลังร่างกายคูลดาวน์แล้ว เพราะความมันและเหงื่อที่สะสมอยู่ตามร่างกายอาจส่งผลให้เกิดสิวได้เช่นกัน

หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณผิวหนังที่เกิดสิว

การสัมผัส แกะเกา หรือบีบสิว อาจกระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้น และยังส่งผลให้เกิดการติดเชื้อหรือเกิดรอยแผลเป็นที่ผิวหนังได้ แต่หากรักษาสิวด้วยตนเองในเบื้องต้นแล้วไม่ได้ผล ควรไปพบแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังโดยเฉพาะ

หลีกเลี่ยงสิ่งที่เสียดสีกับผิวหนัง

มีการศึกษาหลายชิ้นเผยว่า โทรศัพท์มือถือเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคมากมาย ทุกครั้งที่เราใช้โทรศัพท์ เชื้อแบคทีเรียนับพันก็อาจแพร่กระจายจากนิ้วมือไปสู่ใบหน้าหรือจากใบหน้าไปสู่นิ้วมือผ่านการพิมพ์และการคุยโทรศัพท์ได้ นอกจากนี้ ความร้อนจากโทรศัพท์อาจช่วยเพิ่มจำนวนเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย ดังนั้น ผู้ใช้งานจึงควรเช็ดจอโทรศัพท์ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทุกวัน และอาจนำหูฟังมาใช้เพื่อป้องกันใบหน้าสัมผัสหน้าจอโดยตรง อย่างไรก็ตาม สิ่งของเครื่องใช้อื่น ๆ ก็อาจทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้นได้เมื่อเกิดการเสียดสีกับผิวหนัง จึงควรดูแลผิวพรรณและหลีกเลี่ยงหรือทำความสะอาดเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ต้องเสียดสีกับผิวให้ดี เช่น หมวกกันน็อค คอปกเสื้อ สายคล้องไหล่และคอ กระเป๋าสะพายหลัง เป็นต้น

สุดท้ายนี้ หากรักษาสิวด้วยตัวเองแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคนต่อไป แต่หากมีอาการร้ายแรงเกิดขึ้นหลังการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวใด ๆ อย่างอาการหน้ามืด หายใจลำบาก ใบหน้า ตา ริมฝีปากและลิ้นบวม หรือรู้สึกแน่นบริเวณลำคอ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน นอกจากนั้น หากมีอาการแพ้ที่ไม่รุนแรงหลังใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ อย่างมีผื่น หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เกิดขึ้น ก็ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์และรับการรักษาแต่เนิ่น ๆ ด้วยเช่นกัน

Facebook
Twitter
LinkedIn
Telegram
Pinterest
5/5
ลดริ้วรอย
ความงาม

แนะนำคอร์ส ลดริ้วรอย แฟชั่นความงาม ยอดนิยมของคนเมือง

แนะนำ คอร์สลดริ้วรอย แฟชั่นความงาม ยอดนิยมของคนเมือง ที่ได้รับความนิยมและเห็นผล ในยุคนี้เพื่อให้สาวๆ หนุ่มๆ มีผิวพรรณที่สดใส เต่งตึง

ศัยกรรม ทำจมูก
แฟชั่น

ทำจมูก เปลี่ยนโหวเฮ้งด้วยมือหมอ แฟชั่นความงามปัจจุบันมีกี่แบบ เป็นอย่างไร

แฟชั่น ความงาม ศัลยกรรมตกแต่ง ทำจมูก เปลี่ยนรูปหน้า เปลี่ยนโหงเฮ้ง ปัจจุบัน มีกี่รูปแบบที่น่าสนใจ และเป็นกระแสของความงามกันบ้าง