Vaser เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ในการสามารถสลายไขมัน โดยใช้คลื่น ultrasound

vaser เทคโนโลยีใหม่ สลายไขมันด้วยคลื่น อัลตร้าซราวด์

ผู้หญิงกับความสวยเป็นของคู่กัน Vaser ( Vibration Amplification of Sound Energy at Resonance )คือเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ในการสามารถสลายไขมัน โดยใช้คลื่น ultrasound มาทำลายเป้าหมาย คือไขมัน สาวๆคนไหนสนใจเรามาทำความรู้จักกันเลยค่ะ

ในยุคแรกๆของการสลายไขมันจะมีปัญหาเพราะคลื่น ultrasound ที่ใช้มีความร้อนมาก ซึ่งจะมีข้อเสียคือ ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ดูดไขมันตายได้ ต่อมาได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งVASER เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ultrasoundในการทำลายไขมันรุ่นที่3 ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่า เทคโนโลยีUltrasound ที่ใช้นั้นสามารถเลือกทำลายเป้าหมายคือไขมัน อย่างจำเพาะเจาะจง โดยไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง เช่น เส้นประสาท เส้นเลือด และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอื่นๆ วิธีการดูดไขมันนี้ จะนุ่มนวลกว่าการดูดไขมันแบบเก่า และผลข้างเคียงน้อยกว่าการดูดไขมันทั่วไปมาก คนไข้ฟื้นตัว ได้เร็วกว่าการดูดไขมันทั่วไป

VASER คืออะไร
เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดสลายเฉพาะเซลล์ไขมัน ทำไมถึงใช้คำว่าสลายเฉพาะเซลล์ไขมัน? เพราะเทคโนโลยีนี้จะใช้เข็มเล็กเพียง 1-2 มิลลิเมตรเข้าไปปล่อยพลังงานคลื่นเสียง ในระดับความถี่ที่ทำลายเฉพาะแต่กับเซลล์ไขมันเท่านั้น ซึ่งจะทำให้สามารถดูดไขมันออกมาได้ง่าย โดยที่เนื้อเยื่อข้างเคียง เส้นเลือดและเซลล์ประสาทบริเวณรอบๆ ก้อนไขมันไม่เสียหาย หรือถูกกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่สำคัญแผลเล็กมาก หลังจากที่แผลก็แทบจะมองไม่เห็นแผลเลย ลดรอยบวมช้ำหลังการผ่าตัด ผลการรักษาได้ดีกว่า ฟื้นตัวได้เร็ว

ข้อดีของ VASER
– ดูดไขมันแบบ VASER มีความปลอดภัยสูงเพราะไม่ต้องผ่าตัด แต่แบบเดิมต้องผ่าตัด ต้องเสียเลือดและมีแผลผ่าตัดใหญ่
– เทคโนโลยี VASER ใช้พลังงานคลื่นเสียงสลายไขมันแล้วดูดออกไป มีผลกระทบต่อเส้นเลือด เซลล์ประสาท และเนื้อเยื่อข้างเคียงน้อย แต่แบบเดิมใช้วิธีดูดไขมันออกมาตามท่อ แรงดูดจะดูดออกมาทุกอย่างจึงเสี่ยงต่ออันตรายมาก
– ดูดไขมันแบบใหม่ฟื้นตัวได้เร็ว อาการบวม ช้ำ หรือภาวะแทรกซ้อนต่างๆ มีโอกาสเกิดได้น้อยกว่าแบบเดิม
– VASER ให้ผลเร็วและชัดเจน ไม่มีปัญหาผิวเป็นคลื่นหรือโพรง เพราะคอลลาเจนที่พยุงผิวไม่ถูกทำลาย

ขั้นตอนการดูดไขมันด้วย VASER
– จะทำการวาดรูป mark site ตำแหน่ง , จุดที่มีไขมันส่วนเกิน
– จะทำการใส่สารน้ำชนิดพิเศษ (tumescent fluid)เข้าไปในตำแหน่งที่จะดูด สารน้ำจะช่วยในการลดการเสียเลือด ลดการบวมช้ำ
– ต่อมาจะปล่อยพลังงานultrasoundไปทำลาย cell ไขมัน
– Cellไขมันที่ถูกทำลายจะกลายเป็นน้ำเหลว หลังจากนั้นจะให้ท่อขนาดเล็กๆดูดออกมาอย่างนุ่มนวล โดยที่เนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ เกิดความเสียหายน้อยที่สุด

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน
– ควรเข้ามาพบแพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อตรวจร่างกาย ประเมินลักษณะไขมันที่สะสม ,ลักษณะผิวหนัง และตวรจเช็คสภาพร่างกายก่อน
– ควรหยุดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน รวมทั้งสมุนไพรหรือวิตามินบางชนิด เช่น Vitamin E , Primrose oil, โสม, ใบแปะก๊วย,
– งดสูบบุหรี่ก่อนดูดไขมัน อย่างน้อย2 สัปดาห์ และหลังดูดไขมันอย่างน้อย1เดือน
– งดน้ำและอาหารก่อนทำการดูดไขมัน 6ชั่วโมง
– เมื่อมาถึงclinicแล้ว จะทำการตรวจร่างกาย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนดูดไขมันอีกครั้ง พร้อมทั้งพาผู้ป่วยอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด

การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันแบบ VASER
– ควรรัดบริเวณที่ดูดไขมันออกด้วยผ้ายืด เพื่อให้แผลยุบและลดการเกิดรอยย่นของผิวหนัง
– เลี่ยงการนวดตัวแบบหนักๆ 4-5 สัปดาห์
– ห้ามยกของหนัก หรือออกกำลังกายหนัก ภายใน 2 สัปดาห์แรก
– ห้ามทานของดอง เค็ม ผงชูรส เพราะจะทำให้บวมน้ำ
– ห้ามให้แผลโดนน้ำเด็ดขาด 10 วันขึ้นไป หรือหลังจากตัดไหมจึงจะโดนน้ำได้

ระยะเวลาในการทำVASER
ระยะเวลาในการทำVASER ขึ้นอยู่กับบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน และปริมาณไขมันส่วนเกิน โดยทั่วไปแล้ว ถ้าเป็นตำแหน่งเล็กๆเช่น คาง จะใช้ระยะเวลาประมาณ 30นาที แขน2ข้าง ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรือในกรณีที่เป็นบริเวณใหญ่ เช่นหน้าท้อง ต้นขา อาจใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3ชั่วโมง

ระยะเวลาในการพักฟื้น
หลังจากการทำVASER จะให้ผู้ป่วยนอนพักฟื้นสังเกตอาการ ซัก 1-2 ชั่วโมง ถ้าไม่มีอาการผิดปกติ จะให้กลับไปพักผ่อนต่อที่บ้าน ส่วนระยะเวลาในการพักฟื้นจะขึ้นกับตำแหน่งที่ดูดไขมันและปริมาณไขมันที่ดูดออกมา โดยทั่วๆไป ถ้าเป็นการดูดไขมันบริเวณเล็กๆเช่นคาง วันรุ่งขึ้นก็สามารถกลับไปทำงานต่อได้ แต่ถ้าเป็นบริเวณแขน อาจจะต้องพัก 1-2 วัน ส่วนถ้าเป็นหน้าท้อง หรือต้นขาทั้งหมด อาจต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นตัวนาน กว่าตำแหน่งอื่น คือ 7-10 วัน ทั้งนี้โดยรวมระยะเวลาในการพักฟื้นจะขึ้นกับปริมาณไขมันที่ดูด บริเวณและจุดที่ดูดและ ลักษณะกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วยด้วย

Facebook
Twitter
LinkedIn
Telegram
Pinterest
5/5